เพื่อนแทบงง ว่าเอ็งเป็นใคร ข่าวดีผี ไทเรลล์ มาลาเซีย คัมแบ็คซ้อมพร้อมตัวเจ็บหลายๆ คนคืนทีมผีแล้ววันนี้

ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งของแฟนๆ ปิศาจแดงเวลานี้ ที่บรรดาแข้งหลักที่บาดเจ็บไปทั้งหลายแหล่ กำลังฟื้นฟูร่างกลับคืนทีมอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่หายหน้าหายตาไปนานจนแฟนบอล หรือแม้แต่เพื่อนร่วมทีมแทบจะจำเขาแทบไม่ได้กันแล้ว อย่างในรายของ ไทเรลล์ มาลาเซีย (Tyrell Malacia) ที่ล่าสุดมีภาพการซ้อมหลุดมาให้เห็นกันแล้ว หากจำกันได้ทางด้าน ไทเรลล์ มาลาเซีย (Tyrell Malacia) นั้นหายไปจากทีมตั้งแต่ช่วง พฤษภาคม ปี 2023 โน่นเลยทีเดียว และไม่ใช่เพียงเท่านั้น ยังมีทัพแข้งเจ็บอีกหลายรายที่คัมแบ็คกลับมาซ้อมแล้วเช่นกัน

 

เด็กผีชื่นมื่น แห่ต้อนรับ ไทเรลล์ มาลาเซีย คืนทีม หลังเจ้าตัวสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาลงซ้อมได้อีกครั้ง พร้อมมีชื่อลงบู๊ในรายการ ยูโรป้า ลีก อีกด้วย

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ได้รับข่าวดีชุดใหญ่ เมื่อไทเรลล์ มาลาเซีย (Tyrell Malacia) คัมแบ็คกลับมาซ้อมไอ้อีกครั้งหลังจากที่เจ้าตัวนั้นหายหน้าหายตาไปตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ปี 2023 ขณะนี้ ตัวนักเตะกำลังเร่งฟื้นฟูร่างกายอย่างหนักเพื่อให้มีชื่อกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง โดยทางทีมปิศาจแดง ก็วางใจและได้ใส่ชื่อของ ไทเรลล์ มาลาเซีย (Tyrell Malacia) ให้มีชื่อลงทะเบียน ลงบู๊ ศึกฟุตบอลยุโรป ถ้วยรองอย่าง ยูโรป้า ลีก อีกด้วย แน่นอนว่าการคัมแบ็คของเจ้าตัวก็ทำให้เพื่อนร่วมทีมนั้นอดหยอกล้อไม่ได้ พอเห็นเจ้าตัวกลับมาซ้อมเพื่อนก็รุมเข้ามาตีใส่ เจ้าตัวเบาๆ ก็ทำให้มีร้อยยิ้มมุมปากกันไปเป็นบรรยากาศการซ้อมที่ยอดเยี่ยมของ ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ที่ตอนนี้ กำลังกลับมาฟอร์ดีอีกครั้ง 2 นัดหลัง ชนะรวด ยิงได้ 10 ประตู เก็บคลีนชีตได้ทั้ง 2 นัด ก่อนหน้านี้หลังเกมพ่าย ลิเวอร์พูล (Liverpool) คาบ้านไป 0-3 สถานการณ์ของ เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก แต่สุดท้ายเขาก็ปลุกใจลูกทีมให้กลับมาโชว์ฟอร์มแกร่งได้อีกครั้ง ด้วยการบุกไปเอาชนะ เซาแธมป์ตัน (Southampton) ไปได้ 3-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก ต่อด้วยการเปิดบ้านถล่มทีมรองบ่อน อย่าง เจ้าตูบ บาร์นสลี่ย์ (Barnsley) ไปแบบเละเทะ 7-0 โชว์เกมรุกสุดโหดเรียกขวัญกำลังใจก่อนลงบู๊ในพรีเมียร์ลีกต่อในสัปดาห์นี้ สำหรับราคาต่อรอง ใน sbobet ให้ไว้เป็น ราคา เสมอกัน นั่นก็เพราะยังไม่ค่อยเชื่อใจในฟอร์มของทีมปิศาจแดงซักเท่าไหร่ แต่ฟอร์มการเล่นด้วยความมั่นใจในเวลานี้ กับราคาใน sbobet ที่ออกมาแบบนี้ก็น่าลุ้นน่าลองวาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) อยู่ไม่น้อยทีเดียว

 

นอกจาก มาลาเซีย แล้ว ลินเดอร์เลิฟ,ฮอยลุนด์ รวมไปถึง เมสัน เมาท์ ก็คัมแบ็คกลับมาซ้อมได้ทั้งหมดอีกด้วย

ไม่ใช่เพียงแค่ในรายของ ไทเรลล์ มาลาเซีย (Tyrell Malacia) เท่านั้น ราสมุส ฮอยลุนด์ (Rasmus Højlund) ,วิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ (Victor Lindelof ) รวมไปถึง นักเตะกระดูกยุง อย่าง เมสัน เมาท์ (Mason Mount) ก็กลับมาลงซ้อมกับทีมปิศาจแดงได้แล้วทั้งหมดอีกด้วย น่าจะถือเป็นข่าวดีมากๆ ที่ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) กำลังจะได้นักเตะกำลังสำคัญทั้งกลับมาในช่วงเวลาที่โปรแกรมแน่นเช่นนี้ แต่ทว่ากุนซือสมองใสอย่าง เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ก็ยืนยันว่า จะไม่เร่งรีบในการใช้งานบรรดานักเตะที่เพิ่งหายมาจากอาการบาดเจ็บเหล่านี้เร็วเกินไปแน่นอน จำเป็นต้องระวังและค่อยๆ ประเมิณทีละสเต็ป ก่อนจะให้ลงสนามต่อไป

เป๊ปรอเคลียร์อนาคต อัลวาเรซ หลังเจ้าตัวลั่นไม่พอใจไม่ถูกส่งลงสนามนัดสำคัญ

เป๊ปรอเคลียร์อนาคต อัลวาเรซ หลังเจ้าตัวลั่นไม่พอใจไม่ถูกส่งลงสนามนัดสำคัญ

 

ในช่วงปรีซีซั่น นอกจากฟอร์มของทีมเรือใบสีฟ้าที่ดูจะยังไม่เข้ารูปเข้ารอย ยังเก็บชัยไม่ได้เลยจากการอุ่นเครื่องปรีซีซั่น ก็ยังมีเรื่องของนักเตะหลายๆ คนมาให้ปวดหัวไม่น้อย อย่างในรายของนักเตะคนสำคัญอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ (kevin de bruyne) เองก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่หลังจากมีข่าวอย่างหนักกับสโมสรทางซาอุฯ แต่จนถึงตอนนี้ ทางเป๊ป กวาร์ดิโอล่า (pep guardiola) เองก็ยังคงยืนยันว่า เดอ บรอยน์ คือนักเตะคนสำคัญของเขา และยังไม่มีข้อเสนอใดๆเข้ามาในดีลของ เควิน เดอ บรอยน์ (kevin de bruyne) ถึงตรงนี้ก็ต้องรอดูต่อไปว่า KDB กับ แมนฯ ซิตี้ (Manchester city) จะถึงเวลาแยกย้ายกันหรือยัง ส่วนอีกคนที่กลายเป็นปัญหาปวดหัวไม่น้อยของ เป๊ป ในเวลานี้ก็คือ ในรายของ จูเลี่ยน อัลวาเรซ (Julián Álvarez) ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ ของทีม ที่ออกมาแสดงความไม่พอใจในช่วงที่ผ่านมาที่ดูเหมือนเขาไม่ได้มีความสำคัญกับทีมเรือใบสีฟ้าสักเท่าไหร่ ตัวเขาให้เหตุผลว่าที่ผ่านมาเขาไม่มีความสขนักในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม (etihad stadium) เพราะเขาตกเป็นตัวเลือกรองตลอดมา แม้กระทั่งเกมสำคัญก็มักจะถูกมองข้ามอยู่เสมอไม่ค่อยได้รับโอกาสให้ลงสนามทั้งที่บางนัดทีมตกเป็นรองต้องการประตู แต่เขาก็ยังไม่ถูกเลือกให้ลงสนามซักเท่าไหร่นั่นทำให้ตัวของ อัลวาเรซ ไม่ค่อยแฮปปี้กับสถานะของตัวเองในทีมแมนฯ ซิตี้ (Manchester city) แม้ที่ผ่านมาโดยเฉพาะในฤดูกาลที่แล้ว เรือใบสีฟ้าถือเป็นทีมที่นักลงทุน ใน Sbobetมือถือ คอยถือหางอยู่บ่อยๆ ทั้งบอลเดี่ยว บอลสเต็ป หลายๆคน มักจะชื่นชอบและใส่ทีม แมนฯ ซิตี้อยู่ในบิลเสมอ แต่ถึงกระนั้นช่วงปรีซีซั่น ทางทีมเรือใบสีฟ้า กลับโชว์ฟอร์มได้ไม่แจ่มนัก ยังเก็บชัยชนะไม่ได้เลยแถมแพ้หมดเสียด้วย เล่นเอาบรรดาเซียนฟุตบอล Sbobetมือถือ ต้องเซ็งกันไปตามๆกัน แต่ก็อย่างที่เราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า นี่เป็นเพียงช่วงอุ่นเครื่องเท่านั้น พอเข้าแข่งขันจริงทางทีมก็มักจะทำได้อย่างดีตามที่เคยเป็นมากตลอด ในตอนนี้ตัวของ จูเลี่ยน อัลวาเรซ (Julián Álvarez) นั้นกำลังติดภาระกิจรับใช้ชาติในโอลิมปิก 2024 ที่ปารีสอยู่ ซึ่งทาง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (pep guardiola) เองก็หวังที่จะรอให้ทางเจ้าตัวกลับมาก่อนแล้วค่อยเคลียร์เรื่องอนาคตให้ชัดเจนต่อไป ในเรื่องการให้โอกาส ตัวของเป๊ป นั้นมองว่าเขานั้นให้โอกาสนักเตะทุกคน แน่นอนว่าอาจจะมีคนที่ได้เล่นไม่มากอย่างใจต้องการเช่นกรณีของ จูเลี่ยน อัลวาเรซ (Julián Álvarez) แต่เขาก็ยืนยันว่าไม่ได้ปิดโอกาสหากตัวของนักเตะเองยืนยันว่า อยากจะออกจากทีมไปเพื่อโอกาสลงเล่นที่่มากกว่าเดิม ทั้งนี้ จูเลี่ยน อัลวาเรซ (Julián Álvarez)  นั้นยังมีสัญญากับทีม แมนฯ ซิตี้ ไปจนถึงปี 2028 และท่ามกลางความไม่แน่นอนของอนาคตของเขาในเวลานี้ก็ทำให้ทั้ง อาร์เซน่อล,เชลซี รวมถึง ทีมตราหมี แอตฯ มาดริด ต่างก็สนใจอยากได้ตัวของดาวเตะวัย 24 ขวบไปร่วมทีมหากเจ้าตัวเคลียร์อนาคตของตัวเองได้ชัดเจนในที่สุด มาถึงตรงนี้มองดูแล้วโอกาสย้ายทีมของ จูเลี่ยน อัลวาเรซ (Julián Álvarez) ค่อนข้างจะเปิดกว้างมากทีเดียวเพราะเจ้าตัวต้องการลงเล่นให้มากที่สุดซึ่งที่ แมนฯ ซิตี้ (Manchester city) อาจจะให้เขาไม่ได้มากเพียงพอนั่นเอง

ข้อดีของ มาร์ติน เบรทเวธ

ข้อดีของ มาร์ติน เบรทเวธ

เกมบาร์เซโลน่า ชนะเซบีญ่า 0-2 เมื่อคืนนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะนั่นทำให้พวกเค้าสามารถขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงได้ชั่วคราว หากจังหวะโอกาสดี พวกเค้าก็มีโอกาสจะเบียดไปถึงจ่าฝูงได้เหมือนกัน ในเกมนี้ เมสซี่ ยังคงความยอดเยี่ยมเหมือนเดิม แต่ว่าอีกคนหนึ่งที่หลายคนมักจะบ่นก็คือ มาร์ติน เบรทเวธ หมอนี่มันมีดีอย่างไร ดูทรงไม่น่าอยู่ต่อได้ เรามาดูข้อดีของเค้า

เค้ามาเพื่อสำรอง

ต้องยอมรับก่อนว่า การมาของ มาร์ติน เป็นการมาแบบฉุกเฉิน เนื่องจากตอนนั้น อุสมาน เด็มเบเล่ บาดเจ็บยาว ทำให้ทีมขาดกองหน้าก็เลยขอซื้อนักเตะเพื่อมาแก้ปัญหานั้น นั่นทำให้ตอนนั้น บาร์ซา ไม่มีตัวเลือกมากนัก (เป็นการซื้อนอกเวลาซื้อขาย) ยังดีที่สุดท้ายได้เค้ามาร่วมทีม ว่ากันตามตรง คุณภาพของเค้าการมาบาร์ซา อาจจะไม่เข้ากันแต่มาได้ด้วยสถานการณ์บังคับมากกว่า แล้วเค้าก็รู้หน้าที่ บทบาทตัวเองดี เค้าแทบไม่มีอาการงอแง หรือบ่นเลย ยอมรับบทบาทตัวสำรองเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นข้อดีที่หายากมาก

เล่นบอลกับพื้นที่แคบ

จากเกมกับ เซบีญ่า มาร์ติน เบรทเวธ เองก็มีข้อดีของเค้าเองเหมือนกัน อย่างแรกที่เห็นเลย เค้าเป็นนักเตะที่เล่นกับพื้นที่แคบๆได้ดี ทั้งการเลี้ยงผ่าน และการครองบอลถือว่าเป็นข้อดีที่เห็นชัดมากยิ่งถ้าเกมไหนตันๆต้องการตัวเลี้ยงเข้าไปที่แคบๆเพื่อแบ่งเบาภาระของเมสซี่ คนนี้แหละช่วยได้เยอะ เหมาะมากสำหรับเกมที่โดนอีกฝ่ายเอานักเตะมาออกันในกรอบเขตโทษเยอะๆ

เข้าระบบกับทีม

การเข้ามานอกเวลาซื้อขาย นั่นทำให้นักเตะคนนี้เอาเข้าจริงไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมบาร์เซโลน่า แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เลย เค้ากลายเป็นนักเตะที่มีความเข้าใจ ระบบ แผนการเล่นของ โรนัลด์ คูมัน ได้เป็นอย่างดีทีเดียว ยิ่งฐานะตัวสำรองที่จะลงมาเปลี่ยนเกม หรือทำตามสถานการณ์ที่โค้ชกำหนดเอาไว้ บอกเลยว่าคนนี้ก็เด็ดเหมือนกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ โรนัลด์ คูมัน จะขาดไม่ได้เลยเวลานี้

3 เหตุผล ดึงสติแฟนแมนยู หลังตกรอบ

3 เหตุผล ดึงสติแฟนแมนยู หลังตกรอบ

คงเป็นอีกหนึ่งเช้าวันทำงาน แบบที่ไม่อยากไปทำงานเท่าไร สำหรับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายคนคงเซ็งไม่น้อยแม้ว่าจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาดูก็ตาม ยิ่งถ้าตื่นขึ้นมาดูคงเซ็งมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าทีเดียว มาวันนี้เราขอทำหน้าที่เป็นตัวกลางดึงสติแฟนบอลแมนยูกันหน่อยว่าหลังตกรอบ เราควรคิดกันอย่างไรต่อเหตุการณ์นี้ด้วย 3 เหตุผล

ที่จริงมันเป็นไปตามคาดหวัง

ย้อนกลับไปคืนวันจับสลากแบ่งกลุ่ม UCL เชื่อว่าแฟนผีหลายคนในเวลานั้น ก็คงไม่ได้คาดหวังผลงานของโซลชาร์มากเท่าไรอยู่แล้วว่า จะสามารถพลิกกลับเข้ารอบไปได้ หลายคนมองว่าจะตกรอบไปเลยด้วยซ้ำไป มาถึงตอนนี้ โซลชาร์ ก็พาแมนยูทำได้ตามเป้า ก็คือ ได้อันดับที่ 3 ของกลุ่ม ไปเล่นยูโรป้า ลีค หากมองแบบนี้ก็เท่ากับว่า โซลชาร์ทำงานได้ตามเป้า ตามความคาดหมายของแฟนบอล ดังนั้นไม่ต้องคิดอะไรมาก

ตาสว่างคุณภาพนักเตะ

จากผลงานชนะรวด ถ้าไม่นับ มาร์คซิยาล ต้องยอมรับว่า มีเพียงแค่ บรูโน่ แฟร์นันเดส จอมทัพโปรตุเกสเท่านั้นมีที่มีคุณภาพนักเตะระดับสูงพอฟัดพอเหวี่ยงกับนักเตะคนอื่นในตำแหน่งเดียวกันของยุโรป แต่ว่าคนอื่นพูดกันตามตรงว่ายังตามหลังคนอื่นอีกเยอะ พอมาแพ้สองนัดติดตกรอบอย่างนี้ มันก็ทำให้เราตาสว่างได้ว่า สุดท้ายแล้วคุณภาพนักเตะของเรามันยังตามหลังทีมระดับท็อปของยุโรปอยู่ หลายช่วงตัวทีเดียว ซึ่งมันคงเป็นหน้าที่ของโซลชาร์และทีมงานที่ต้องค้นหาอีกหลายตำแหน่ง

เข้ารอบไปก็ตกรอบอยู่ดี

ผลงานเมื่อคืนเชื่อว่า แฟนบอล คงเห็นแล้วว่า คุณภาพทีมแบบนี้ แม้ว่าจะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อไป ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย บอกตามตรงว่าไปเจอกแชมป์กลุ่มไหนก็ตาม โอกาสที่พวกเค้าจะตกรอบก็มีสูงมาก ดังนั้นชิงตกรอบไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ก็คงไม่แตกต่างกัน แล้วถ้าพูดให้ใจร้ายหน่อย การเข้ารอบไปแล้วเกิดเจอตัวโหดอย่าง บาร์ซา, บาเยิร์น ไม่แน่พวกเค้าอาจจะแพ้แบบสกอร์เยอะจนกลายเป็นประวัติศาสตร์ก็ได้ สุดท้ายแม้จะเสียใจแต่ทีมต้องเดินหน้าต่อไป

นักเตะยอดเยี่ยมประจำซีซั่นของ ลิเวอร์พูล

นักเตะยอดเยี่ยมประจำซีซั่นของ ลิเวอร์พูล

ต้องบอกว่าต้นร้ายปลายดีเหมือนกันสำหรับลิเวอร์พูล ที่ต้องยอมรับว่าพวกเค้าเจอปีศาจร้ายที่ชื่อว่า “อาการบาดเจ็บ” เล่นงานมาเกือบทั้งซีซั่นเลย พวกเค้าแทบจะไม่ได้มี 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดได้เลย ยืมใครมาก็เจ็บ เดี๋ยวเจ็บอีก แต่สุดท้ายการกระเสือกกระสนมาจบได้ที่อันดับสาม ถือว่าทำได้ตามเป้า หรือเหนือกว่าที่คาดอีก เราไปดูว่าใครควรจะได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำซีซั่นของ ลิเวอร์พูล

โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ภายใต้อาการบาดเจ็บที่รบกวนคนในทีมมาตลอดทั้งซีซั่นมีคนหนึ่งที่แทบจะไม่โดนอาการบาดเจ็บเลย แถมยังรักษาฟอร์มตัวเองตามมาตรฐานได้อีกด้วย คนนั้นก็คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คนดีคนเดิมนี่เอง ต้องยอมรับว่านี่เป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่เจ้าตัวต้องใช้คำว่า “แบก” ทีมจนหลังแอ่นเลยทีเดียว สถิติในซีซั่นนี้ลงเล่นไป 37 เกม (ในลีค) ชนะ 19 เกม แพ้ 9 เกม ยิงได้ 22 ประตู แอสซิสต์อีก 5 ครั้ง ถือว่าเป็นสถิติที่ดีเลย ขนาดเพื่อนเล่นไม่ได้ตามมาตรฐานพี่เค้ายังทำได้มากขนาดนี้ ถ้าอยู่ในสภาพฟิตทั้งทีม สงสัยซาลาห์ คงยิงแตะหลัก 30 ประตูได้เลย

อลิสซอน แบ็คเกอร์

อีกหนึ่งคนที่ต้องบอกว่าคอยประคับประคองทีมไม่ให้แย่ไปมากกว่านี้ ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ก็คือพ่อหมีอลิสซอน แบ็คเกอร์ คนนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่เค้าโชว์ฟอร์มดีเลย สถิติในเกมลีค ลงเล่นไป 33 เกม ชนะ 18 แพ้ 7 เก็บ 10 คลีนชีต เซฟไปทั้งหมด 84 ครั้ง แถมทำได้อีก 1 ประตูสำคัญในเกมกับเวสต์บรอมวิชด้วย ถือว่าเป็นอีกคนที่ฟอร์มดีแบบทะลุขึ้นมา

ฟาบินโญ่

ในช่วงเวลาที่ เวอร์กิล ฟานไดค์ เจ็บ เราเชื่อว่าคนที่ต้องรับบทบาทแทน และ แบก จนหลังแอ่นอีกคนก็คือกองกลางตัวตัดเกมคนนี้ เพราะว่าเค้าต้องลงไปเล่นเซนเตอร์แบ็คแทนที่ฟานไดค์ หลายครั้งซึ่งมันไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของเค้าเลย แต่ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีในซีซั่นนี้ลงเล่นในลีคไป 30 เกม ชนะ 16 เกมแพ้ 6 เกม หวังว่าซีซั่นหน้ากลับมาเล่นตำแหน่งเดิมน่าจะกลับมาเล่นดีอีกครั้ง

สรุปผลคาราบาวคัพ คู่ที่น่าสนใจ

สรุปผลคาราบาวคัพ คู่ที่น่าสนใจ

จบลงไปเรียบร้อยสำหรับ เกมลีคคัพ หรือ คาราบาวคัพ รอบที่สาม รอบนี้เริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้นเนื่องจากว่ามีเหล่าทีมจากพรีเมียร์ลีคลงมาร่วมเตะด้วย ทำให้เกมบางคู่ดูสนุกและสูสีมากขึ้น แถมบางคู่ทีมจากพรีเมียร์ลีคมาเจอกันเองอีกด้วย ตอนนี้เตะครบจบหมดแล้วเรามาสรุปผลการแข่งขันคู่สำคัญกันบ้าง

เลสเตอร์ซิตี้ กับ อาร์เซนอล

ถือว่าเป็นคู่เอกประจำการแข่งขันรอบนี้เลยก็ว่าได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าทีมพรีเมียร์ลีคมาเจอกันเอง ไม่เท่านั้นยังเป็นทีมระดับหัวตารางด้วยกันอีกด้วย ผลการแข่งขันเป็น อาร์เซนอลที่ฟอร์มร้อนแรงกว่า เอาชนะไปได้ 2-0 เกมนี้ใครที่ดูสดจะบอกว่าสู้กันสนุกสูสี แม้ว่าจะเป็นทีมผสมทั้งคู่ก็ตาม

นิวพอร์ต กับ วัตฟอร์ด

คู่ต่อไปเราไปดูเกมที่ต้องใช้คำว่า พลิกล็อคกันบ้าง เป็นเกมระหว่าง นิวพอร์ต คันทรี่ ทีมจากลีคทู ได้โอกาสมาเจอกับ วัตฟอร์ด ที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะเกินแรงของ วัตฟอร์ดเท่าไร แต่ปรากฏว่า เป็นเจ้าบ้านที่เอาชนะไปได้ 3-1 เกมนี้วัตฟอร์ดเหลือเพียงแค่ 10 ด้วยแต่มาโดนในนาทีที่ 88 ตอนนั้นเกมขาดไปแล้ว ถือว่าเป็นเกมที่เจ้าบ้านเล่นได้ดีกว่าจนเอาชนะไปได้ ส่งวัตฟอร์ดเป็นทีมพรีเมียร์ลีคทีมที่สองได้กลับบ้านไปก่อน

เวสต์บรอม กับ เบรนท์ฟอร์ด

คู่แรกของรอบนี้ที่ถือว่า พลิกล็อค เล็กๆด้วยเหมือนกัน เวสต์บรอมวิช เจอกับ เบรนท์ฟอร์ด คู่นี้หากเทียบกันจริงก็ไม่ห่างกันเท่าไร(เวสต์บรอมวิชจากพรีเมียร์ลีค เบรนท์ฟอร์ดจากแชมเปี้ยนชิพ) ทำให้ผลการแข่งขันออกมาสูสีมากออกเสมอ 2-2 ต้องตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษ สรุปเป็นทาง เบรนท์ฟอร์ดทำได้ดีกว่า ยิงเข้าหมดทุกคน ส่วนเวสต์บรอมวิชมาพลาดในคนสุดท้าย ทำให้ตกรอบไป

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ บอร์นมัธ

อีกคู่เป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ บอร์นมัธ คู่นี้เอาจริงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็ไม่ได้เหนือกว่ามาก เพราะว่าเอานักเตะสำรอง และดาวรุ่งลง แต่ก็ยังสามารถเอาชนะบอร์นมัธไปได้ แสดงถึงคุณภาพของนักเตะได้ดี ขุมกำลังแน่นปึ้กอย่างนี้บอกเลยว่าน่าจะลุยทุกถ้วยได้ยาวๆเหมือนเดิม

แพนิคบาย การซื้อที่ไม่ได้อะไรเลยของ ปีศาจแดง

แพนิคบาย การซื้อที่ไม่ได้อะไรเลยของ ปีศาจแดง

สำหรับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เห็นข่าวตลาดซื้อขายในช่วงท้ายนี้ คงคิดได้แค่คำว่า มันอะไรกันครับเนี่ย เพราะจากดีลที่ดูน่าจะมีความหวังทั้งการได้ตัว และยกระดับคุณภาพของทีมได้อย่าง เจดอน ซานโช่ มาตอนนี้กลับต้องมาลุ้นกลับดีลอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน เราเชื่อว่าสุดท้าย แมนยู อาจจะมีสถานการณ์ แพนิคบาย หรือการซื้อแบบตื่นตูม ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดเราบอกเลยว่าจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเอาแบบไม่นานนี้ก็ได้ ถ้าทำแบบนี้ไม่ได้มีผลดีอะไรเลย

ไม่ได้ซื้อเพราะฟุตบอล

เหตุผลสำคัญที่ทำให้การ แพนิคบายไม่ได้เป็นการซื้อเพื่อการแก้ปัญหาเรื่องฟุตบอล เพราะว่าเหล่าผู้บริหารมองว่าการซื้อนักเตะเข้ามาเป็นเรื่องของกำไรขาดทุน เรื่องของการขายเสื้อมากกว่า ทีนี้การซื้อนักเตะที่เข้ามาเพราะเหตุผลด้านการตลาด ทำให้นักเตะคนนั้น ไม่ได้ลงสนาม หรือ ลงสนามไปก็เพราะโดนสั่งมาจากบอร์ด ผู้จัดการทีมก็ไม่สามารถรีดศักยภาพออกมาได้ สุดท้ายนักเตะและทีมก็ล้มเหลวไปพร้อมกัน

ระเบิดเวลาค่าเหนื่อย

การซื้อในช่วงโค้งสุดท้าย หากไม่ใช่นักเตะที่เค้าจ้องจะขายอยู่แล้ว ส่วนมากจะเป็นนักเตะที่ราคาสูงมาก ทีนี้ซื้อมาแพงแบบไม่ได้อยากได้ มันก็ขายไม่ออกเท่านั้นไม่พอ การซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้ แมนยูจะโดนโก่งค่าตัวจนหลังหัก รวมถึงค่าเหนื่อยที่จะต้องจ่ายเยอะเกินความจำเป็น เกินค่าเหนื่อยไปมาก สุดท้ายกลายเป็นระเบิดเวลาเรื่องค่าเหนื่อย กับเพดานค่าเหนื่อยที่จะทำให้ทีมเสียเงินเยอะเกินไป ยิ่งวิกฤติโควิท19 แบบนี้ด้วยบอกเลยว่า ตัวแดงในบัญชีกันแบบยาวๆ ให้ดูเคสของ อเล็กซิส ซานเชส เป็นตัวอย่างก็ได้

ตัวตลก

การซื้อแบบตื่นตูมอย่างนี้ เดิมทีเป็นการทำเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทำให้หุ้นขึ้นด้วย แต่เดี๋ยวนี้การซื้อนักเตะแบบตื่นตูม มันกลับให้ผลตรงกันข้าม มันจะทำให้ ภาพลักษณ์เหมือนคนลนลาน ดูเป็นตัวตลกในสายตาคนวงการฟุตบอลด้วยซ้ำไป ส่วนเรื่องหุ้นบอกเลยว่าการซื้อแบบนี้ไม่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นอยากฝากบอก เอ็ด ว่า ถ้าซื้อไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อ

ปัจจัยส่งผลให้ ลิเวอร์พูล หมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์ไปแล้ว

ปัจจัยส่งผลให้ ลิเวอร์พูล หมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์ไปแล้ว

แม้ว่าตอนนี้การฟันธงว่าลิเวอร์พูล หมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์มันยังเร็วเกินไป เพราะว่าเกมยังเหลืออีกประมาณ 15 นัด แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าตอนนี้โอกาสของพวกเค้าหลุดลอยไปหมดแล้ว การตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ 10 คะแนน (หรืออาจะไปไกลถึง 13 คะแนน หากซิตี้เก็บชัยชนะเกมตกค้างได้) มันคงเป็นเรื่องยากที่แชมป์เก่าอย่างลิเวอร์พูลจะไล่ทันในเวลานี้ ปัจจัยอะไรบ้างส่งผลให้ลิเวอร์พูลหมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์

อาการบาดเจ็บ

หากจะโทษอะไรสักอย่างที่ทำให้ลิเวอร์พูลหมดสภาพเลย น่าจะเป็นเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะที่มาแบบต่อเนื่องเลย เริ่มจาก เวอร์กิล ฟานไดค์ ที่เป็นเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างของทีมเจ็บไปจากเกมกับเอฟเวอร์ตัน จากนั้นนักเตะก็ทยอยกันเจ็บเรื่อยมาโดยเฉพาะในแผงหลังที่สุดท้ายต้องถอย ฟาบินโญ่ จากกลางลงมาเล่นเซนเตอร์แบ็ค และ ดึง แนท เซนเตอร์แบ็คดาวรุ่งขึ้นมาเล่นแทน เนื่องจากไม่มีนักเตะเซนเตอร์อาชีพเหลือเลย จนต้องมาซื้อเอาใหม่ในช่วงเวลาท้ายๆของการซื้อขายนักเตะ นึกภาพว่าหากพวกเค้ายังอยู่กันครบ อาจจะยังป้วนเปี้ยนแถวอันดับ 1-3 อยู่ก็ได้

แอนฟิลด์ ไม่ขลัง

ช่วงหลังที่ผลงานตกลงไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าจุดแข็งของพวกเค้าอย่างเกมในบ้าน ไม่ขลังเหมือนเดิม หลังจากพ่ายในบ้านเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี นั่นเหมือนกับว่า ปราการที่เคยแข็งแกร่งได้ถูกเจาะเป็นรูโหว่ ต่อจากนั้นก็โดนเจาะซ้ำไปเรื่อยๆจนทำให้ตอนนี้การเล่นในบ้านอย่าง แอนฟิลด์ ไม่ได้น่ากลัวอย่างเคยอีกต่อไป พอเก็บแต้มในบ้านไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย นอกบ้านก็คงยากหน่อย

นักเตะไม่ฟิตพอ

แผนการเล่นของ คล็อปป์ ที่ติดตั้งลงไปให้กับลิเวอร์พูล เรารู้กันดีว่ามันคือ เฮฟวี่เมทัล ฟุตบอลที่หาคนทำได้ยากมาก แต่ซีซั่นนี้มันแปลกประหลาดตรงที่เตะกันถี่มาก นั่นทำให้การฟื้นฟูร่างกายเพื่อให้ฟิตตลอดเวลามันไม่ได้ง่ายแบบนั้น พอนักเตะล้า และต้องเตะติดกัน(เนื่องจากว่านักเตะเจ็บไม่มีนักเตะหมุนเวียน รวมถึงนักเตะสำรองยังทำได้ไม่ดีพอเลยจะพักนักเตะตัวหลักไม่ได้) นั่นทำให้นักเตะไม่ฟิตพอ จากนั้นการเล่นตามแผนก็ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จากจุดแข็งก็เลยกลายเป็นจุดอ่อนไป

เอเมอริก ลาปอร์ต ตัวหมากสำคัญของ แมนซิตี้

เอเมอริก ลาปอร์ต ตัวหมากสำคัญของ แมนซิตี้

เกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดไปได้ 1-0 เกมนี้หลายคนมองว่าเป็นที่เกมไม่น่าจะยากของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่พอลงสนามจริงกลับไม่เป็นแบบนั้น เชฟฟิลด์ เล่นด้วยยากมากจริงๆ หลายจังหวะสามารถสร้างอันตรายให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ด้วย แต่ที่พวกเค้าชนะกลับมาได้ ต้องยอมรับว่าตอนนี้ ตัวหมากสำคัญของซิตี้กลับมาแล้ว นั่นคือ เอเมอริค ลาปอร์ต

เกมแรกหลังจากเจ็บยาว
เกมนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้เอเมอริค ลาปอร์ต เซนเตอร์แบ็คคนสำคัญกลับมาประจำการในรอบ 5 เดือน แน่นอนว่าเกมนี้ เป๊ป อาจจะหวังให้เค้าเรียกความฟิต เรียกจังหวะตัวเอง กลับมาก่อน ซึ่งเค้าเองก็ทำได้ดีทีเดียว หลายจังหวะอาจจะเล่นเหมือนร้างสนามไปนาน แต่โดยรวมพอเค้ากลับมาเหมือนกับแนวรับของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ดูแข็งขึ้นเยอะ เอาง่ายๆว่าการกลับมาของเค้าทำให้แมนซิตี้ เก็บคลีนชีทได้ในรอบ 6 เกมเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี

มาช้าแต่มาแล้ว
ซีซั่นนี้ ก่อนจะเริ่ม เอเมอริค ลาปอร์ต ถูกวางตัวให้เป็นเซนเตอร์แบ็ค ตัวหลักของทีมเลย ด้วยการเล่นอันแข็งแกร่งกับลูกกลางอากาศ เล่นบอลบนพื้นได้ เปิดเกมจากแดนหลังได้ แต่น่าเสียดายที่เค้าบาดเจ็บหนักไปนานถึง 5 เดือน นั่นทำให้แผนของเป๊ปนั่นเป๋ไปเลย ต้องหาคนอื่นมาแทนซึ่งแทนไม่ได้ บวกกับ การเล่นต้องปรับใหม่หมด ผลก็เป็นอย่างที่เห็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้โดนเจาะเยอะมากยังดีที่เกมรุกยิงขึ้นได้ ทำให้เอาชนะมาได้ แม้ว่าจะกลับมาประจำการช้าไปหน่อย แต่เชื่อว่าการกลับมาคราวนี้ ลาปอร์ต น่าจะกลับมาประจำการยาวๆจนจบฤดูกาลไปเลย

การเล่นขึ้นบอลจากแดนหลัง
ทีนี้พอลาปอร์ต กลับมา เหมือนกับว่าเป๊ป ได้ตัวหมากสำคัญกลับมาคืนสนามอีกครั้ง เรื่องสำคัญที่เป๊บอยากให้ทำเป็นเรื่องเกมรับให้เหนียวแน่นไว้ก่อน บวกกับการเล่นฟุตบอลที่ขึ้นเกมจากแนวหลังที่เค้าต้องการ มาทีนี้เค้าจะได้ทำมันอย่างที่ใจต้องการแล้ว บอกเลยว่าช่วงเวลาที่เหลือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะกลับมาน่ากลัวอีกครั้ง คิดแค่ว่ารับเหนียวแล้วบุกโหด ก็เล่นด้วยยากแล้ว

ส่องเกมรอบชิงโคปป้าอิตาเลีย จุดโทษเกมแรกหลังโควิท 19

ส่องเกมรอบชิงโคปป้าอิตาเลีย จุดโทษเกมแรกหลังโควิท 19

เกมรอบชิงชนะเลิศโคปป้าอิตาเลีย เมื่อคืนนี้ต้องบอกว่า หักปากกาเซียนพอสมควรในสายตาคนทั่วไป แต่ถ้าคนที่ติดตามฟุตบอลอิตาลีช่วงหลังจะไม่งงเท่าไร กับการที่ยูเว่แพ้ให้กับนาโปลี เพราะคู่นี้ก็เคยเจอกันมาแล้วในซีซั่นนี้จากรายการอื่นแล้วยูเว่ก็เคยแพ้ไป 2-1 แสดงว่านาโปลีก็มีดีเหมือนกัน เกมนี้มีความน่าสนใจจนเราต้องหยิบมาเล่าให้ฟังกันตรงที่ว่ามันเป็นเกมแรกหลังกลับมาจากโควิท 19 ที่ต้องตัดสินจนถึงการดวลจุดโทษ
เล่นเพียงแค่ 90 นาที
การเล่นฟุตบอลแบบเกมบอลถ้วยอย่างนี้ ส่วนใหญ่หากเสมอกันในเวลาปกติ 90 นาที จะต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที(ครึ่งละ 15 นาที) เพื่อหาผู้ชนะ แต่ด้วยสถานการณ์โควิท 19 ทำให้พอจบเวลาปกติ 90 นาที จะตัดช่วงต่อเวลาออกไปแล้วเข้าสู่ช่วงเตะจุดโทษเลย อันนี้ชอบนะมันช่วยย่นเวลาการเตะฟุตบอลลงไปได้เยอะ อีกอย่างการได้ลุ้นจุดโทษมันได้ลุ้นกว่าการไปเตะรอบต่อเวลาอีกด้วย จากเกมนี้บอลถ้วยอื่นน่าจะทำเหมือนกัน
สนามเงียบก็กดดันไม่แพ้กัน
สิ่งที่ยากมากของการเตะจุดโทษก็คือ วินาทีที่เอาลูกฟุตบอลไปตั้ง นักฟุตบอลจะได้ยินเสียงเชียร์ดังเซ็งแซ่ไปหมดทั้งฝั่งตัวเองและฝั่งตรงข้าม เสียงเชียร์เหล่านี้จะสร้างแรงกดดันให้กับนักเตะมหาศาลเลย หากรับมือไม่ดีอาจจะทำให้เตะผิดพลาดได้ แต่เกมนี้เค้าเตะแบบปิดสนาม ไม่มีเสียงเชียร์ดังกล่าว แต่เชื่อหรือไม่ว่า ความเงียบที่ทุกคนในสนามเงียบกันหมดเพื่อให้นักเตะทั้งคนยิง และ ผู้รักษาประตูได้มีสมาธินั้น มันเงียบเสียจนไม่ได้ยินอะไรเลย ยิ่งทำให้ความกดดันที่แบกรับอยู่แล้วในรอบชิงชนะเลิศยิ่งมากขึ้นไปอีก สังเกตได้จากผู้เล่นของยูเว่ที่ยิงพลาดไปสองคนอย่าง ดีบาล่า และ ดานิโล่ ดูออกเลยว่ากดดันจนยิงพลาด เกมบอลถ้วยที่เหลือของซีซั่นนี้ เราน่าจะได้เห็นภาพแบบนี้อีกหลายครั้งทีเดียว น่าติดตามน่า